Mannequin ( เทวดาทำหล่น )

VIDEO

×
ปีที่ฉาย:
Thai NA IMDb 5.9 คุณภาพ : HD
Mannequin ( เทวดาทำหล่น )

เรื่องย่อ : Mannequin ( เทวดาทำหล่น )

ดูหนัง Mannequin (เทวดาทำหล่น)

บทนำ

Mannequin (เทวดาทำหล่น) เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ออกฉายในปี 1987 กำกับโดย Michael Gottlieb โดยมีนักแสดงนำคือ Andrew McCarthy และ Kim Cattrall ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ตกหลุมรักกับหุ่น mannequins ที่มีชีวิตในโลกแห่งแฟชั่น

เนื้อเรื่อง

เรื่องเริ่มต้นขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เมื่อ Jonathan Switcher (รับบทโดย Andrew McCarthy) ชายหนุ่มที่มีความฝันในการเป็นนักออกแบบแฟชั่น แต่กลับต้องทำงานที่ร้านขายของที่ไม่มีใครสนใจ เขาได้สร้างหุ่น mannequins ขึ้นมาและเมื่อตกหลุมรักกับหุ่นที่เขาทำขึ้นมา ชื่อว่า Emmy (รับบทโดย Kim Cattrall) ซึ่งมีความสามารถในการมีชีวิตและพูดคุยได้เมื่อไม่มีใครมองเห็น

เมื่อ Jonathan และ Emmy ต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ในโลกแห่งแฟชั่น รวมถึงการเอาชนะความสงสัยของผู้คนและการทำให้ความรักของพวกเขาเป็นจริง ภาพยนตร์นำเสนอความตลกขบขันและความโรแมนติกที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ พร้อมกับบทเรียนเกี่ยวกับการเป็นตัวของตัวเองและการตัดสินใจในชีวิต

นักแสดง

  • Andrew McCarthy – รับบท Jonathan Switcher
  • Kim Cattrall – รับบท Emmy
  • Estelle Getty – รับบท Claire
  • James Spader – รับบท Richard
  • G.W. Bailey – รับบท Captain

คะแนนและรีวิว

Mannequin ได้รับความนิยมในช่วงปี 80 และแม้ว่าคะแนน IMDb จะไม่ได้สูงมากนัก โดยมีคะแนนอยู่ที่ 5.8, แต่ภาพยนตร์ยังคงมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและได้รับการชื่นชมในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และความตลกขบขัน

ในทางกลับกัน คะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 38%, ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้ชมและนักวิจารณ์ หลายคนมองว่าภาพยนตร์มีเสน่ห์และความน่ารัก แต่บางคนก็เห็นว่ามันค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ซ้ำซากและไม่มีความลึกซึ้งมากพอ

สรุป

Mannequin (เทวดาทำหล่น) เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอการผจญภัยของความรักระหว่างชายหนุ่มและหุ่นที่มีชีวิต ผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตลกและโรแมนติก ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในด้านบทภาพยนตร์และความลึกซึ้ง แต่ภาพยนตร์ก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบในความสนุกสนานและการสร้างจินตนาการให้กับผู้ชมในยุคนั้น

รวมทั้งความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่าง Jonathan และ Emmy สร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับผู้ชมและเป็นการย้ำเตือนว่า ความรักสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ และยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชมในช่วงเวลาว่าง